โรคพยาธิตัวตืด

พยาธิตัวตืด หรือ พยาธิตัวเบน (tape worm) คือ โรคที่พบบ่อยได้แก่ พยาตัวตืดวัว (Taenia saginata) พยาธิตืดหมู (Taenia olium) พยาธิตัวแก่ซึ่งมีความยาวประมาณ 3 เมตร ประกอบด้วยปล้องจำนวนมากมาย อาศัยอยู่ในลำไส้เล็กของคน ปล้องของพยาธิจะหลุดออกมากับอุจจาระหรืออกมาเอง แล้วแตกซึ่งจะปล่อยไข่ (ปล้องหนึ่ง ๆ มีไข่เป็นพันเป็นหมื่นฟอง) กระจายอยู่บนพื้นดินหรือพื้นหญ้า เมื่อวัว (หรือหมู) กินไข่ตัวตืดวัว (หรือตืดหมู) ที่ออกจากอุจจาระคนเข้าไป ตัวอ่อนจะฟักในลำไส้และไซเข้ากระแสเลือด ไปอยู่ตามกล้ามเนื้อ  ทั่วร่างกายโดยมีถุงหรือซิสต์ (cyst) หุ้ม เป็นถุงเล็กๆ ขาวๆ คล้ายเม็ดสาคู จึงเรียกว่า เนื้อสาคู (หรือหมูสาคู) ถ้าคนกินเนื้อ (เนื้อหมู) สาคูเข้าไป ตัวอ่อนก็จะไปเจริญ เป็นตัวแก่ต่อไป

แต่ถ้าคนกินไข่ของตืดหมู่ (ที่ออกจากอุจจาระผู้ป่วย) ซึ่งปนเปื้อนตามมือ ผัก หรืออาหาร หรือตัว ผู้ป่วยเองเกิดอาเจียนขย้อนเอาไข่ที่อยู่ในปล้องแก่ของพยาธิขึ้นมาอยู่ในกระเพาะอาหาร ตัวอ่อนก็จะฟักตัว ออกจากไข่ แล้วไซเข้ากระแสเลือดกลายเป็นซิลต์กระจายไปอยู่ตามเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย เรียกว่า โรคซิสต์พยาธิตืดหมู (cysticercosis) อาจอยู่ในกล้ามเนื้อและ (แต่ถ้าคนกินไข่ของตืดวัว ตัวอ่อนที่ฟักออกมาจะตายไป ไม่เกิดอันตรายเหมือนกินตืดหมู)

ในบ้านเราพบโรคพยาธิตัวตืดในภาคอีสานมากกว่าภาคอื่น ๆ เนื่องเพราะคนในภาคนี้ยังนิยมกินเนื้อดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ลาบหมู ลาบเนื้อ ยำเนื้อพล่าเนื้อ หมูแหนม เป็นต้น และพบเป็นโรคพยาธิตืดวัว มากกว่าตืดหมู

อาการ โรคพยาธิตัวตืด

ถ้าเป็นโรคพยาธิตัวตืดในลำไส้โดยทั่วไปจะไม่มี อาการรุนแรง เพียงแต่เวลาถ่ายอุจจาระมีปล้องพยาธิ คล้ายเส้นบะหมี่หรือก๋วยเตี๋ยวหลุดออกมาเป็นท่อนๆ เป็นครั้งคราว บางรายอาจมีอาการหิวบ่อย กินจุแต่ผอม อ่อนเพลีย น้ำหนักลด อาจมีอาการปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้อาเจียน หรือถ่ายอุจจาระบ่อย การตรวจอุจจาระ ด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะพบไข่ของพยาธิตัวตืด บางรายอาจมีอาการแพ้ เป็นลมพิษได้

แต่ถ้ากินไข่ของตืดหมูเข้าไป จะเกิดมีตุ่มซิสต์ ขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียวกระจายอยู่ใต้ผิวหนังทั่วร่างกาย ถ้าไปอยู่ในตา เรียกว่า โรคซิสต์พยาธิตืดหมูในตา (ocular cysticercosis) อาจทำให้เยื่อตาขาวอักเสบม่านตาอักเสบ ประสาทตาอักเสบ อาจทำให้ตาบอดได้ ถ้าไปอยู่ในสมอง เรียกว่า โรคซิสต์พยาธิตืดหมูในสมอง (cerebral cysticercosis) อาจทำให้มีอาการชักแบบ ลมบ้าหมู แขนขาเป็นอัมพาต มีอาการทางจิตประสาท หรือปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนได้

การป้องกัน โรคพยาธิตัวตืด

  1. เนื้อหมู เนื้อวัวที่ใช้กินเป็นอาหารควรได้รับการตรวจจากสัตวแพทย์ว่า ไม่เป็นเนื้อหมู เนื้อวัวสาคู
  2.  กินเนื้อหมูเนื้อวัวหรือเนื้อควายที่ทำให้สุกแล้ว อย่ากินดิบ ๆ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ยำ พล่า แหนมเป็นต้น
  3.  ผักสด ผลไม้ ควรล้างให้สะอาดก่อนกิน
  4. ควรถ่ายอุจาระลงในส้อมที่มิดชิด
  5. ล้างมือก่อนกินอาหาร และหลังถ่ายอุจจาระ ทุกครั้ง

ผู้ที่มีอาการชักแบบลมบ้าหมู อาจเกิดจากพยาธิตืดหมู โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าพบอาการชักครั้งแรกใน คนที่มีอายุมากกว่า 25 ปี หากสงสัยควรส่งไปตรวจที่โรงพยาบาล

พยาธิตัวตืด หรือ พยาธิตัวเบน (tape worm) คือ โรคที่พบบ่อย

การรักษา โรคพยาธิตัวตืด

ถ้าพบปล้องของพยาธิตัวตืดหลุดปนมากับอุจจาระ หรือตรวจพบไข่พยาธิตืดในอุจจาระ ให้ กินยาถ่ายพยาธิ เช่น มีเบนดาโซล นิโคลซาไมด์  อัลเบนดาโซล หรือพราซิควานเทล 

ถ้าสงสัยเป็นโรคพยาธิตัวตืดหมูหลังกินยาถ่าย พยาธิ 2 ชั่วโมง ควรให้กินยาถ่ายดีเลือด 2 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 2-3 ช้อนโต๊ะ ตามไปด้วย เพื่อเร่งการขับพยาธิ ออกทางลำไส้ ป้องกันการขย้อนเอาไข่ในปล้องแก่ของ พยาธิขึ้นมาที่กระเพาะอาหาร

ถ้าพบตุ่มขนาดเมล็ดถั่วเขียวอยู่ใต้ผิวหนังทั่วร่างกาย หรือมีอาการทางสมอง เช่น อัมพาต ชัก ปวด ศีรษะมากหรือมีอาการทางจิต หรือมีอาการทางตา (เช่น ตาแดง ตามัว) ควรส่งโรงพยาบาล อาจต้องเอกซเรย์ คอมพิวเตอร์สมอง ตรวจคลื่นสมอง ทำการทดสอบ ทางน้ำเหลือง ตัดชิ้นเนื้อที่มีตุ่มตรงใต้ผิวหนังไปตรวจ  หาตัวพยาธิ หรือตรวจพิเศษอื่นๆ

ถ้าซิสต์พยาธิมีลักษณะเป็นหินปูน และผู้ป่วย ไม่มีอาการผิดปกติ ก็ไม่ต้องให้การรักษาแต่อย่างใด แต่  ถ้ามีอาการทางสมอง และตรวจพบว่าในเนื้อสมองมีซิสต์ พยาธิที่ยังมีชีวิตอยู่ จะให้ยาฆ่าพยาธิพราซิควานเทล หรืออัลเบนดาโซล ซึ่งจำเป็นต้องรับไว้ รักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากการใช้ยากระตุ้นให้เกิด ปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายรุนแรง และจำเป็นต้องให้ยาสตีรอยด์ขนาดสูงร่วมด้วย (ถ้าพบซิสต์พยาธิในตา หรือไขสันหลัง จะไม่ให้ยารักษา เพราะอาจเกิดผลเสีย หายมากขึ้น)

นอกจากนี้ยังให้การรักษาตามอาการ เช่น ถ้ามีอาการชัก ก็ให้ยากันชัก ถ้ามีการอุดกั้นของทางไหลเวียนของน้ำในสมอง และไขสันหลัง ทำให้เกิดภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ (hydro – cephalus) อาจต้องผ่าตัดสมองเพื่อถ่ายเทเอาน้ำในสมอง และไขสันหลังออกมานอกสมอง

ส่วนการผ่าตัดเพื่อนำซิสต์ของพยาธิออกจาก สมองนั้นเป็นเรื่องยาก และอาจทำลายถูกเนื้อสมองใกล้เคียง จึงไม่นิยมทำกัน


[Total: 0 Average: 0]