โรคเมเนียส์ เป็นโรคที่มีความผิดปกติของหูชั้นใน เป็นเหตุให้เสียความรู้สึกเกี่ยวกับการทรงตัว(เกิดอาการบ้านหมุน) และการได้ยิน (เกิดอาการหูตึง แว่ว เสียงดังในหู) ส่วนมากจะเป็นเพียงข้างเดียวประมาณร้อยละ 10-15 อาจะเป็นทั้ง 2 ข้าง โรคนี้พบได้น้อย มักพบในผู้ชายอายุ 40-60 ปี แต่ก็อาจพบในคนหนุ่มสาวได้
สาเหตุ โรคเมเนียส์
สาเหตุของโรคนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด
สันนิษฐานว่า มีการเพิ่มขึ้นของปริมาณของเหลวในหูชั้นในส่วนที่ควบคุมเกี่ยวกับการทรงตัว (ลาบิรินท์) ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสาทการทรงตัวและประสาทการได้ยิน
บ้างก็สันนิษฐานว่า อาจเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง การติดเชื้อไวรัส หรือความผิดปกติของหลอดเลือด
บางรายอาจมีอาการเกิดขึ้นหรือกำเริบหลังได้รับบาดเจ็บหรือติดเชื้อ (เช่นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หูชั้นกลางอักเสบ ซิฟิลิส) สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้ ยาบางชนิด (เช่น แอสไพริน) ร่างกายเหนื่อยล้า หรือมี ภาวะเครียดทางจิตใจ
อาการ โรคเมเนียส์
มักจะเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ด้วยอาการบ้านหมุนอย่างรุนแรง จนบางครั้งทำให้ผู้ป่วยล้มลง มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง และอาจมีอาการตากระตุก
อาการบ้านหมุนอาจเป็นนานครั้งละไม่กี่นาทีถึงหลายชั่วโมง แล้วหายไปได้เอง แต่จะกำเริบได้เป็นครั้งคราว อาจทิ้งช่วงห่างกันเป็นสัปดาห์ ๆ หรือเป็นปี ๆ ซึ่งไม่ค่อยแน่นอน
ผู้ป่วยมักมีอาการหูตึงและแว่วเสียงดังในหูซึ่งเป็นพร้อมกับอาการบ้านหมุน และจะยังคงเป็นอยู่ตลอดเวลา ระหว่างที่ไม่มีอาการบ้านหมุนเสียงที่ไม่ได้ยินมัก เป็นเสียงต่ำ เช่น เสียงนาฬิกา เสียงกริ่งโทรศัพท์ เป็นต้น
อาการบ้านหมุนมักจะมาเป็นมากเวลาร่างกายเหนื่อยล้าหรือมีภาวะเครียดทางจิตใจ แต่จะเป็นห่างขึ้นเมื่อสุขภาพทั่วไปแข็งแรงดีและจิตใจไม่เครียด
การป้องกัน โรคเมเนียส์
- ผู้ป่วยควรงดอาหารเค็มจัด และดื่มน้ำให้น้อยลงเพื่อลดปริมาณของเหลวในหูชั้นใน อาจช่วยให้อาการกำเริบห่างขึ้น
- ควรงดแอลกอฮอล์ และบุหรี่และปฏิบัติตัวเช่น เดียวกับผู้ป่วยที่เป็นหูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน
การรักษา โรคเมเนียส์
หากสงสัย ควรส่งโรงพยาบาล หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจต้องใช้เครื่องมือตรวจสมรรถภาพของการได้ยิน (audiometry) อาจเอกซเรย์ ตรวจเลือดหาวิธีอาร์แอล และตรวจพิเศษอื่นๆ ตรวจคลื่นสมองถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI
การรักษา ถ้ามีอาการบ้านหมุนมากให้ฉีดไดเฟนไฮดรามีน หรือไดเมนไฮดริเนต หรือ อะโทรพีน ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการได้
อาจให้กินยาแก้อาเจียน เช่นไดเมนไฮดริเนต 1-2 เม็ดวันละ3-4 ครั้ง
นอกจากนี้ จะให้ยาขับปัสสาวะ เช่น ไฮโดรคลอโรไทอาไซด์ 50-100 มก.วันละครั้งซึ่งจะช่วยให้อาการดีขึ้นหลังประมาณ 1 เดือนไปแล้ว
- ถ้ามีความวิตกกังวลให้ไดอะซีแพม
- ถ้าตรวจพบว่าเกิดจากวิฟิลิส ให้การรักษาแบบซิฟิลิส
- ถ้าหากใช้ยาไม่ได้ผลในรายที่หูตึงไม่มากอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด เพื่อป้องกันมิให้โรคคลุกลาม และช่วยให้หายขาดได้