ปวดข้อศอก คือ ความรู้สึกไม่สบายที่ข้อศอก หรือที่กล้ามเนื้อ เส้นเอ็นที่ยึดกล้ามเนื้อและกระดูก และเอ็นยึดที่ช่วยพยุง
สาเหตุทั่วไปของอาการ ปวดข้อศอก
การปวดข้อศอกอาจมีสาเหตุที่ไม่ได้มาจากโรคพื้นเดิม ตัวอย่างเช่น การกดทับหรือพิงข้อศอกเป็นเวลานาน การลองออกกำลังกายแบบใหม่ เช่น เทนนิส บาดแผลเฉพาะที่ การทำงานบนโต๊ะ กล้ามเนื้อหรือเอ็นยืดเกินไปหรือฉีก
การรักษา ปวดข้อศอก ด้วยตนเอง
การใช้เทคนิค 4 อย่าง ได้แก่ การพักผ่อน การใช้น้ำแข็ง การพันให้แน่น และการยกให้สูงขึ้น (RICE) อาจช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อได้ การใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน หรือนาโพรเซน อาจช่วยได้เช่นกันมองหาการดูแลทางการแพทย์ไปพบแพทย์ในกรณีต่อไปนี้
- ดูแลรักษาตัวเองแล้วแต่อาการยังไม่ดีขึ้น
- มีอาการปวดต่อเนื่องหรือแย่ลง
- มีรอยแดงหรือบวม
ไปพบแพทย์ทันทีในกรณีต่อไปนี้
- มีอาการปวดหรือบวมอย่างรุนแรง
- กระดูกผิดรูปอย่างเห็นได้ชัดหรือสงสัยว่ากระดูกจะหัก
- เคลื่อนไหวข้อศอกลำบาก
โรคข้อศอกนักกอล์ฟ
ภาวะที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดตรงข้อศอกด้านใน การแสดงอาการ:
- ปวดข้อศอก
- ความเจ็บปวด
- ข้อศอกติด
ปวดข้อศอกด้านนอก
การระคายเคืองของเนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อแขนท่อนล่างกับข้อศอก การแสดงอาการ:
- ปวดข้อศอก
- ความเมื่อยล้า
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
กล้ามเนื้อฉีก
กล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อที่เชื่อมกล้ามเนื้อและกระดูก (เส้นเอ็น) ยืดหรือฉีกขาด การแสดงอาการ:
- ปวดกล้ามเนื้อ
- การจํากัดพิสัยการเคลื่อนไหว
- ตะคริว
เบอร์ไซติส
การอักเสบของเยื่อบุที่มีของเหลว (ถุงลดเสียดสี) ที่ทำหน้าที่เป็นเบาะรองที่ข้อต่อ
การแสดงอาการ
- ปวดข้อศอก
- อาการปวดขณะเคลื่อนไหว
- ความเมื่อย
ข้อเสื่อม
ข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสึกหรอของเนื้อเยื่อยืดหยุ่นที่ปลายกระดูก การแสดงอาการ:
- ข้อแข็ง
- รู้สึกว่ามีเสียงกรุกกรักที่ข้อ
- ข้อผิดรูปหรือพิการ