พิษปลาทะเล คือ มีพิษที่มีชื่อว่า ซิวกัวท็อกซิน (ciguatoxin) ทำให้เกิด พิษภัยแก่ผู้บริโภคได้จากปลาทะเล เช่น ปลาสาก ปลาน้ำดอกไม้ ปลากะพง ปลานกแก้ว ปลากะรัง ปลาหมดทะเล เป็นต้น อาหารเป็นพิษ ถ้าเกิดในเด็กจะมีความรุนแรงมาก กว่าผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่จะเป็นไม่รุนแรงมีอันตรายค่อนข้างน้อย
อาการ พิษปลาทะเล
มักเกิดหลังกินปลาทะเล (โดยเฉพาะปลาตัวโต) ประมาณ 2-6 ชั่วโมง (เร็วสุด 15 นาที นานสุด 30 ชั่วโมง)
อาการแรกเริ่มทีพบ คือ อาการแบบอาหารเป็นพิษ ทั่วไป ได้แก่ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย (ซึ่งอาจเป็นอยู่นาน 1.2 วัน)
ส่วนอาการทางระบบประสาทจะเกิดหลังกินปลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 3 วัน ได้แก่ อาการเวียนศีรษะ เห็นบ้านหมุน เดินเซ ปวดศีรษะ ปวดฟัน ปวดตามข้อ ปวดกล้ามเนื้อ รู้สึกเสียวแปลบ ๆ เหมือนถูกเข็มตำ (paresthesia) ที่บริเวณปากและลิ้น ปวดและเสียวแปลบ ๆ (painfulparesthesia) ที่แขนขา และมือเท้า การรับอุณหภูมิกลับ ตาลปัตร (ร้อนว่าเย็น เย็นว่าร้อน) กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ถ้าเป็นรุนแรง อาจมีอาการหายใจไม่ได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจเป็นอัมพาต
- นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการเหงื่อแตก น้ำลายไหล หายใจขัด หนาวสั่น
- อาการทางระบบประสาทมักเป็นอยู่นานหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์ ในช่วงหลัง ๆ ผู้ป่วยอาจมีอาการคัน และสะอึกร่วมด้วย
การป้องกัน พิษปลาทะเล
หลีกเลี่ยงการกินปลาทะเลตัวโต น้ำหนักมากว่า 2-3 กก.โดยเฉพาะเครื่องในปลาไม่ว่าจะปรุงหรือทำให้ สุกด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม
- หลังจากอาการทุเลาแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการกิน ปลาและหอยทะเลอีก (เพราะอาจได้รับพิษเข้าไปซ้ำเติม อีก) จนกว่าจะหายเป็นปกติแล้ว ควรหลักเลี่ยงการดื่ม แอลกอฮอล์ การใช้ยาประเภทฝิ่น และบาร์บิทูเรต ซึ่ง จะทำให้อาการแย่ลงได้
- โรคนี้มีอาการแบบอาหารเป็นพิษทั่วไป แต่จะมี อาการทางระบบประสารทร่วมด้วย คือ รู้สึกเสียวแปลบๆ ที่บริเวณปาก ลิ้น แขนขน และการรับรู้อุณหภูมิแบบกลับตาลปัตร ดังนั้น ถ้ากินปลาทะเลแล้วมีอาการอาเจียน ท้องเดิน และมีอาการดังกล่าวร่วมด้วย ควรรีบไปรักษาที่โรงพยาบาล
การรักษา พิษปลาทะเล
หากสงสัย เช่น มีอาการอาหารเป็นพิษ (ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน) ร่วมกับอาการเสียวแปลบ ๆ ที่ปาก ลิ้น แขนขา การรับรู้อุณหภูมิแบบกลับตาลปัตร เกิดขึ้นหลังกินปลาทะเล ควรให้การปฐมพยาบาล แล้วรีบส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลทันที ถ้าพบว่าผู้ป่วยหยุดหายใจควรช่วยเหลือ (เช่น เป่าปาก หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ) จนกว่าจะถึงโรงพยาบาล
แพทย์จะวินิจฉัยจากลักษณะอาการ และประวัติ การกินปลาทะเลเป็นสำคัญ
การรักษา ให้การรักษาขั้นพื้นฐานมักจะต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล เฝ้าติดตามดูอาการ อย่างใกล้ชิด และให้การรักษาแบบประคับประคอง
ควรให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ และให้ยาบรรทาอาการ เช่น พาราเซตามอล บรรเทาปวดต่างๆ ยาแก้แพ้ บรรเทาอาการคัน อะมิทริปไทลีน บรรเทาอาการคันและความรู้สึกเสียวแปลบ ๆ เป็นต้น ถ้ามีอาการชีพจรเต้นช้าให้อะโทรพีน
บางรายแพทย์อาจให้เมนนิทอล (mannitol) ขนาด 1 กรัม/กก.ในรูปสารละลาย 20% ในอัตร 500 มก./ ชั่วโมง ช่วยลดอาการของระบบประสาท (โดยไม่ทราบกลไกการออกฤทธิ์) ในกรณีที่เป็นรุนแรงถึงขั้นหยุดหายใจ (ซึ่งพบได้น้อย) ก็จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ผลการรักษา ส่วนใหญ่จะหายได้เป็นปกติ แต่อาจ มีอาการอยู่นานหลายวันถึงหลายสัปดาห์กว่าจะหายสนิทในรายที่เป็นรุนแรง เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง หายใจไม่ได้หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีก็มีโอกาสรอดชีวิตได้