ท่ามกลางการแข่งขันในโลกธุรกิจ การพัฒนาสินค้าแบบเดิม ๆ ไม่อาจตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้อีกต่อไป เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป องค์กรใดคิดค้น ‘นวัตกรรม’ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ก็จะได้รับความสำเร็จทางธุรกิจ
กับโอกาสที่นิตยสาร Business+ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 32 จึงเกิดความร่วมมือกับคณบดีวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล สำรวจบริการ แบรนด์สินค้า หรือองค์กร ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม
- เพื่อคัดเลือกสุดยอดสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมเป็นที่ยอมรับ โดยผ่านการคัดเลือกจากผู้บริโภค
- เพื่อสร้างความตระหนักให้แก่องค์กรธุรกิจ ในการคิดค้นสินค้าหรือบริการที่มีนวัตกรรมที่เป็นที่ต้องการของตลาด
- เพื่อมอบรางวัลให้แก่สุดยอดองค์กรนวัตกรรมดีเด่น 2021 ที่มีความโดดเด่นในด้านความคิดสร้างสรรค์ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในโลกยุคใหม่ประจำปี พ.ศ. 2564
สุดยอดองค์กรนวัตกรรมดีเด่น 2021 ‘PRODUCT INNOVATION AWARDS 2021’ ดำเนินการสำรวจผลความนิยมของผู้บริโภคทางสื่อออนไลน์ จำนวน 14,602 กลุ่มตัวอย่าง ระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม จากนั้นเข้าสู่กระบวนการสรุปคะแนน คัดเลือกแบรนด์สินค้าหรือองค์กรที่มีความโดดเด่นสูงสุด เพื่อจัดทำเนื้อหาประชาสัมพันธ์ ขณะเดียวกันเตรียมพิธีมอบรางวัลในเดือนสิงหาคมศกนี้
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้องค์กรธุรกิจต้องคิดค้นนวัตกรรมสินค้าและบริการใหม่ ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า และมอบ ประสบการณ์การของสินค้าและบริการ เพื่อเป็นที่ต้องการของตลาดและประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจอันเป็นเครื่องหมายแห่งความสำเร็จในด้านนวัตกรรมสินค้าและบริการ
แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมธุรกิจด้านสุขภาพ (Healthcare) ในปีที่ผ่านมา จะเผชิญผลกระทบจากการระบาดของโคโรน่าไวรัส (COVID-19) รวมไปถึงการ Disruption ของเทคโนโลยีไม่ได้น้อยไปกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ แต่หากจะพูดถึงโรงพยาบาลที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทายแบบนี้ โรงพยาบาลนั้นคือ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช

นายแพทย์ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานของธุรกิจด้านสุขภาพโดยรวมปรับตัวลดลงจากผลกระทบของ COVID-19 รวมไปถึงการมาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ แต่ก็มองว่านี้คือโอกาสใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นเช่นกัน
“สำหรับผมแล้ว รูปแบบการรักษาคนไข้ที่ปกติจะเดินเข้ามา OPD และตามด้วยแอดมิด IPD ซึ่งเป็นรูปแบบดั้งเดิมนั้นคงจะอยู่แบบนี้ไปได้อีกสักระยะ แต่ขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องมองหาช่องทางเติบโตใหม่ ๆ มารองรับ เพื่อชดเชยการขาดหายไปของรายได้ในรูปแบบเดิมด้วย”
เมื่อมีนาคม 2562 ทางกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเปิดตัวบริการ Samitivej Virtual Hospital ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเสมือนจริงบนโลกออนไลน์ 24 ชั่วโมง โดยมีการใช้เทคโนโลยีอย่าง Telemedicine เข้ามาเชื่อมโยงกับบริการทางการแพทย์เดิมที่มีอยู่เพื่อก่อให้เกิดบริการทางการแพทย์รูปแบบใหม่ ซึ่งเริ่มตั้งแต่บริการ Teleconsultation โดยให้คนไข้สามารถรับคำปรึกษาจากแพทย์ผ่านวิดีโอคอลได้ นอกจากนี้ก็มีบริการ Test @Home ในกรณีที่แพทย์พิจารณาว่าต้องทำการตรวจเลือด จะมีบริการเจาะเลือดถึงบ้าน แล้วนำส่งห้องปฏิบัติการทันที รวมไปถึงบริการ Medicine Delivery ในกรณีที่ผู้ใช้บริการต้องได้รับยา
“พฤติกรรมของลูกค้าในอนาคตจะไม่เดินทางมาโรงพยาบาลมากเหมือนในปัจจุบัน เราจึงต้องสร้าง Telemedicine ขึ้นมาในรูปแบบ Virtual Hospital ที่มี Platform เป็น Ecosystem คือ เป็น Total Solution สำหรับผู้รับบริการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการดำเนินธุรกิจในอนาคต ถือว่าเราเป็นเจ้าแรกของประเทศที่ให้บริการครบวงจรเช่นนี้ อีกหนึ่งจุดเด่นคือ โรงพยาบาลของเราเชื่อมโยงกับบริษัทประกัน และรวมไปถึงธนาคารต่าง ๆ ด้วย นั่นทำให้ลูกค้าของเราสามารถชำระเงินได้อย่างสะดวก ช่วงแรกที่เราเปิดใช้ Virtual Hospital มีคนใช้ประมาณ 500 คนเท่านั้นเอง แต่หลังมีการระบาดของโคโรน่าไวรัสในรอบที่ 1 และรอบที่ 2 มีคนใช้เพิ่มขึ้นมา 4,000 คน ขณะที่ในรอบ 3 คาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นมาอีกพอสมควร”
นายแพทย์ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช
นายแพทย์ชัยรัตน์ เพิ่มเติมว่า แนวโน้มของ Telemedicine เติบโตแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น ปัจจัยสำคัญคือประชาชนเปิดรับได้เร็วแค่ไหน โดยบริการนี้ของโรงพยาบาลสามารถเข้าถึงผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน Samitivej Plus ของโรงพยาบาลเป็นช่องทางหลัก และ LINE ได้ รวมไปถึงแอปพลิเคชันของพันธมิตรทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ก็สามารถเข้าถึงบริการนี้ได้เช่นกัน
“เหตุผลที่เราสามารถทำผลงานได้ดีในช่วงสถานการณ์ที่ยากลำบาก ก็เพราะเรามีการเตรียมตัวมาก่อนหน้านี้นานแล้ว เพราะเรามองเห็นว่าความเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้น ขณะที่ธุรกิจที่จะอยู่รอดต่อไปในอนาคตจะต้องมุ่งเน้นการการสร้างวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง นำเอาอัตลักษณ์ของตัวเองมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อคาดเดาพฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภคล่วงหน้า พร้อมกับการสร้างคุณคุณค่าต่อส่วนรวมและสังคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าเวลามีปัญหาด้านสุขภาพก็จะคิดถึงเราก่อนเป็นอันดับแรกนั่นเอง”
ขั้นตอนการตัดสิน
ขั้นตอนที่ 1 : บรรณาธิการ Business+ และผู้ทรงคุณวุฒิร่วมคัดเลือกสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมในแต่ละประเภทสินค้า
ขั้นตอนที่ 2 : นำรายชื่อสินค้าและบริการตามประเภทสินค้าขึ้นเว็บไซต์และสื่อเครือข่ายสังคมออนไลน์ของ Business+ และ Techhub เพื่อให้ผู้บริโภคลงคะแนน
ขั้นตอนที่ 3 : ประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการที่ได้รับการคัดเลือกในสื่อนิตยสารและสื่อออนไลน์ Business+
ขั้นตอนที่ 4 : จัดงานมอบรางวัลสุดยอดนวัตกรรมสินค้าและบริการ
ทั้งนี้ ความน่าสนใจของผลสำรวจจากระยะเวลาสำรวจผลออนไลน์ Business+ ‘PRODUCT INNOVATION AWARDS 2021’ ถูกพัฒนาขึ้นและปรับหัวข้อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่แบรนด์หรือองค์กรต่างมองหาทางออกสำหรับธุรกิจใหม่
ข้อมูลเชิงลึกในมิติต่าง ๆ ของผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถาม
โดยกลุ่มตอบแบบสอบถาม แบ่งตามอายุ และกำลังซื้อในมิติต่าง ๆ
ถึงตรงนี้จะเห็นว่า จากการตอบแบบสอบถามของผู้บริโภค Business+ ‘PRODUCT INNOVATION AWARDS 2021’ ทำให้สามารถมองเห็นคุณค่าของแบรนด์ หรือฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
โดยรางวัลที่มอบให้จะสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของนวัตกรรมที่ผู้ผลิตสินค้าและบริการ ที่ต่างคิดค้นและพัฒนาสินค้าและบริการของตนให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคก็รับรู้ถึงนวัตกรรมในนั้น ๆ และสะท้อนกลับมายังผลการโหวตในครั้งนี้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารางวัลนี้จะช่วยเสริมสร้างการพัฒนาสินค้าและบริการของเจ้าของสินค้าให้ก้าวหน้าต่อไป อันจะเป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภคในยุคที่ความต้องการของลูกค้าเป็นตัวกำหนดว่าใครเป็นผู้ชนะท่ามกลางการแข่งขันของโลกยุคใหม่นี้
ที่มา TheBusinessPlus
3 thoughts on “โรงพยาบาลสมิติเวช: ผู้นำด้าน ‘Virtual Hospital’ ของไทย รางวัล PRODUCT INNOVATION AWARDS 2021”