10 สัญญาณเตือน “ภาวะต่อมหมวกไตล้า”

ปวดหลัง

หากคุณมีอาการเหล่านี้อย่างน้อย 5 ข้อ คุณอาจจะกำลังตกอยู่ใน “ภาวะต่อมหมวกไตล้า” หรือ Adrenal Fatigue Syndrome ซึ่งจัดอยู่ในความผิดปกติประเภท ภาวะ หรือ กลุ่มอาการ ยังไม่ถึงขั้นเป็นโรคร้ายแรง แต่หากละเลยหรือปล่อยไว้นานจะส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ – Minanta

  1. ตื่นเช้าลำบาก เมื่อถึงเวลาตื่นนอน จะลุกจากที่นอนยาก ต้องกดตั้งนาฬิกาปลุกหลายๆครั้ง รู้สึกไม่มีแรง ต้องการนอนต่อ เมื่อตื่นมาแล้วก็รู้สึกไม่สดชื่น เหมือนนอนไม่พอ
  2. รู้สึกอ่อนเพลีย หมดแรงในการใช้ชีวิต หมดไฟในการทำงาน ปวดหัว เวียนหัว หน้ามืดบ่อยครั้ง อาการเป็นมานานกว่า 6 เดือน เมื่อพักผ่อนเต็มที่แล้วก็ยังไม่ดีขึ้น
  3. ในเวลากลางวันจะรู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา ถ้าวันไหนเพลียมากๆจะหลับตั้งแต่เย็นหรือหัวค่ำ แล้วตื่นขึ้นมาอีกทีในเวลากลางคืน
  4. นอนไม่หลับ เมื่อถึงเวลาเข้านอนกลับไม่ง่วงนอน โดยใช้เวลานานกว่าจะหลับได้ หรือ หลับไม่สนิท ตื่นรู้ตัวกลางดึกบ่อยๆ
  5. ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวโดยไม่มีสาเหตุ โดยตำแหน่งที่ปวดนั้นไม่มีลักษณะบวม แดง ร้อน แบบการอักเสบทั่วๆไป มักจะชอบไปนวดน้ำมัน นวดกดจุด หรือกายภาพบ่อยๆ หลังทำอาการดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังกลับมาเป็นซ้ำอีกเรื่อยๆ
  6. ขี้หลงขี้ลืม ไม่มีสมาธิ สมองมึนงง คิดอะไรไม่ค่อยออก ขาดความคิดสร้างสรรค์ ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ความสามารถในการแก้ไขตัดสินใจลดลง
  7. เครียดง่าย ซึมเศร้า วิตกกังวล อารมณ์แปรปรวน มักมีความกดดัน หรือ ปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบสูง
  8. ภูมิคุ้มกันลดลง เจ็บป่วยบ่อยครั้ง เช่น เป็นหวัด มีไข้ เจ็บคอ มีแผลร้อนในขึ้นในช่องปาก ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นขึ้นตามตัว
  9. เสพย์ติดเครื่องดื่มคาเฟอีน ต้องคอยกระตุ้นตัวเองให้ตื่นตัวอยู่เสมอ หากวันไหนไม่ได้ดื่มชา กาแฟ หรือ เครื่องดื่มชูกำลัง แล้วจะง่วง อ่อนเพลีย หมดแรง ปวดหัว หงุดหงิดได้
  10. มีความอยากรับประทานของหวานๆ หรือ อาหารรสเค็ม เมื่อได้ทานเพียงเล็กน้อยจะรู้สึกดี เช่น ขนมเค้ก ไอศกรีม ช็อกโกแลต ชานมไข่มุก มันฝรั่งทอด อาหารหมักดอง ผลไม้แช่อิ่ม

[Total: 3 Average: 5]

Leave a Reply