การตัดชิ้นเนื้อกระดูก (Bone biopsy) คือ การนำเอาชิ้นส่วนหรือแกนกลางของกระดูกไปตรวจดูเซลล์ ถ้าใช้เข็มเจาะต้องฉีดยาชา ถ้าใช้การผ่าตัดต้องให้ยาสลบ
การตัดชิ้นเนื้อกระดูกส่งตรวจ เป็นข้อบ่งชี้ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดกระดูกและกดเจ็บ โดยตรวจหลังจากทำสแกนกระดูก (bone scan) ทำสแกนคอมพิวเตอร์ (CT scan) เอกซเรย์ (X – ray) หรือการตรวจเอกซเรย์หลอดเลือด (arteriography) แล้วพบก้อนหรือมีลักษณะที่ผิดปกติ การตัดชิ้นเนื้อกระดูกด้วยการผ่าตัดใช้สิ่งส่งตรวจที่ยาวกว่าการตัดชิ้นเนื้อกระดูกแบบเจาะ และสามารถให้การรักษาด้วยการผ่าตัดได้ทันทีหากวิเคราะห์ด้วยการดูดเซลล์ของสิ่งส่งตรวจ และพบว่าเป็นเซลล์มะเร็ง
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น กระดูกหัก เนื้อเยื่อรอบ ๆ ได้รับบาดเจ็บมีการติดเชื้อ (osteomyelitis) และมีการปนเปื้อนของเนื้อเยื่อปกติด้วยเซลล์เนื้องอก
วัตถุประสงค์
เพื่อแยกแยะระหว่างเนื้องอกกระดูก (benign bone tumors) และโรคมะเร็งกระดูก (malignant bone tumors)
การเตรียมผู้ป่วย
- อธิบายการตรวจให้ผู้ป่วยทราบและตอบคำถามของผู้ป่วย
- บอกผู้ป่วยว่าการตรวจนี้ต้องตัดชิ้นเนื้อกระดูกไปตรวจ (bone specimen)โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ส่อง
- หากผู้ป่วยทำการตัดชิ้นเนื้อด้วยวิธีเจาะ (drill biopsy) ผู้ป่วยไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร ทำการตัดชิ้นเนื้อด้วยวิธีเปิด (open biopsy) ผู้ป่วยต้องงดอาหารตลอดคืนก่อนตรวจ
- บอกผู้ป่วยว่าใครเป็นผู้ตรวจและสถานที่ตรวจ
- บอกผู้ป่วยว่าจะได้รับการฉีดยาชาแต่จะรู้สึกไม่สุขสบายและมีแรงกดเมื่อเข็มที่ตัดชิ้นเนื้อแทงเข้าไปในกระดูก
- อธิบายว่าจะมีอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นเข็มแทงเข้าไปในกระดูก หากเป็นไปได้หยิบภาพของเครื่องมือที่ใช้เจาะให้ผู้ป่วยดู ความเครียดมีความสำคัญกับความร่วมมือของผู้ป่วยระหว่างการทำ biopsy
- ให้ผู้ป่วยหรือญาติเซ็นใบยินยอมรับการตรวจรักษา
- ตรวจสอบประวัติผู้ป่วยว่าแพ้ยาชาหรือไม่
การตรวจและการดูแลหลังตรวจ
Drill biopsy
1.จัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่าที่เหมาะสมและตำแหน่งที่จะทำได้รับการโกน (shave) และเตรียมบริเวณที่จะทำ drill biopsy
2.หลังจากฉีดยาชา ตัดชิ้นเนื้อกระดูกเล็ก ๆ (ตามปกติประมาณ 3 มิลลิเมตร) และใช้เข็มตัดชิ้นเนื้อ (biopsy needle) ดันโทรคา (trocar) เข้าไปในกระดูก แล้วหมุนประมาณ 180 องศา
3.เมื่อถึงแกนกลางของกระดูก ให้ดึง trocar ออก และใส่ชิ้นเนื้อกระดูกในขวดที่มีน้ำยา 10% formalin โดยเขียนข้างขวดไว้เรียบร้อย แล้วใช้ก๊อสปราศจากเชื้อกดตำแหน่งที่เจาะ
4.เมื่อหยุดเลือดได้แล้วทาแผลด้วยยาระงับเชื้อ เช่น povidone – iodine Ointment และปิดแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
Open biopsy
1.ให้ผู้ป่วยดมยาสลบและตำแหน่งที่จะทำได้รับการโกน (shave) ทำความสะอาดด้วยสบู่ที่ใช้ทำผ่าตัด และเตรียมบริเวณที่จะตัดชิ้นเนื้อ เช็ดด้วยไอโอดีนและแอลกอฮอล์
2.กรีดและตัดชิ้นเนื้อกระดูกและส่งไปยัง histology laboratory ทันทีเพื่อวิเคราะห์
ทั้ง Drill biopsy และ Open biopsy
1.บันทึกสัญญาณชีพและตรวจดูตำแหน่งที่ตัดชิ้นเนื้อ ระบุปริมาณที่คาดว่าจะมีสิ่งที่ระบายออกมาเท่าไร และรายงานสิ่งที่ระบายออกมาที่มากเกิน
2.หากผู้ป่วยมีอาการปวด ให้ยาแก้ปวด
3.หลังจากการตัดชิ้นเนื้อไปหลาย ๆ วันแล้ว ให้สังเกตดูว่ามีอาการติดเชื้อที่กระดูกหรือไม่ เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเวลาเคลื่อนไหว บริเวณที่เจาะแดงหรือมีฝีใกล้ ๆตำแหน่งที่ตัดชิ้นเนื้อ รายงานให้แพทย์ทราบหากมีอาการดังกล่าว
ข้อควรระวัง
1.Bone biopsy ควรจะทำอย่างระมัดระวังในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด
2.ส่งสิ่งส่งตรวจไปห้องตรวจทันที
ผลการตรวจที่เป็นปกติ
เนื้อเยื่อกระดูกที่เป็นปกติ ประกอบด้วยเส้นใยของคอลลาเจน (Collagen) เซลล์กระดูกที่โตเต็มที่แล้ว (Osteocytes) และออสติโอบลาสต์ (Osteoblasts) กระดูกอาจถูกอัดแน่น (compact) หรือกระดูกพรุน (cancellous) กระดูกแข็ง (Compact Bone) จะอัดแน่นมีแร่ธาตุเกาะอยู่เป็นวงรอบ หรือแต่ละวงเรียงกันเป็นชั้น ๆ (lamellae) ส่วนกระดูกพรุนมีวงรอบกระดูกเรียงกันเป็นชั้น ๆ มีเซลล์กระดูกที่โตเต็มที่แล้ว และมีไขกระดูกสีแดงและเหลืองอยู่ระหว่างเซลล์กระดูกที่โตเต็มที่แล้ว
ผลการตรวจที่ผิดปกติ
การตรวจชิ้นเนื้อ (histologic examination) ของชิ้นเนื้อกระดูกสามารถ พบก้อนเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงไม่ใช่มะเร็ง (benign tumors) หรือพบก้อนที่ผิดปกติที่ เป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็ง (malignant tumors or cancer) เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงจะมีขอบเขตชัดเจนไม่แพร่กระจาย ส่วนเนื้อร้ายหรือมะเร็ง จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เซลล์มะเร็งส่วนมากที่แพร่กระจายไปยังกระดูกจะมาทางระบบเลือดและระบบน้ำเหลืองจากมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งต่อมไทรอยด์ หรือมะเร็งไต