สาเหตุของน้ำท่วมปอด ส่วนใหญ่มักเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลว เนื่องจากไม่สามารถปั๊มเลือดที่รับมาจากหัวใจห้องขวาออกไปได้ ทำให้มีปริมาณเลือดในหัวใจห้องขวาเพิ่มขึ้นเรื่อยจนกระทั่งล้นไปท่วมปอดนั่นเอง นอกจากนี้ภาวะน้ำท่วมปอดยังสามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น โรคปอดบวม ปอดอักเสบ การสัมผัสกับสามารถผิดบางอย่าง การบาดเจ็บที่ การออกกำลังกายมากเกินไป การอยู่ในพื้นที่มีระดับความสูงมาก
สาเหตุที่ทำให้หัวใจล้มเหลว แบ่งเป็น 2 สาเหตุใหญ่ๆ คือ
- กล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลว
- ลิ้นหัวใจล้มเหลว
อาการภาวะน้ำท่วมปอด แบ่งเป็น 3 ลักษณะอาการ ดังนี้
1. ภาวะน้ำท่วมปอดแบบเฉียบพลัน (Acute pulmonary edema symptoms)
- ลมหายสั้นถี่มาก หรือ อาการหายใจไม่สะดวก และอาการแย่ลงเมื่อนอนลง
- รู้สึกหอบเหนื่อย หายใจไม่ออก คล้ายอาการจมน้ำ
- หายใจเสียงดัง , หายใจแรง หรือต้องอ้าปากขณะหายใจ
- มีความวิตกกังวลกระสับกระส่าย
- มีอาการไอที่มีเสมหะเป็นฟอง หรือมีเสมหะปนเลือด
- มีอาการเจ็บหน้าอกถ้าภาวะน้ำท่วมปอดมีสาเหตุมาจากการเกิดโรคหัวใจ
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ ,ใจสั่น ,หัวใจเต้นเร็ว
หากมีอาการใดๆ ของอาการดังกล่าวควรรีบเข้าพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะภาวะน้ำท่วมปอดเฉียบพลัน
อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษา
2. ภาวะน้ำท่วมปอดเรื้อรัง (Chronic pulmonary edema symptoms)
- มีอาการหายใจถี่ขึ้นมากกว่าปกติเมื่อมีการออกกำลังกาย หรือมีการใช้งานทางร่างกาย
- หายใจลำบากกับกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมาก
- หายใจลำบากเมื่อนอนราบกับพื้น
- หายใจดังเสียงฮืดๆ
- ตื่นในเวลากลางคืนด้วยอาการหายใจหอบเหมือนหายใจไม่ทัน อาจบรรเทาอาการได้โดยการลุกขึ้นนั่ง
- น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อมีภาวะน้ำท่วมปอดที่มีสาเหตุมาจากโรคหัวใจล้มเหลว, ภาวะที่หัวใจปั๊มเลือด
ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาจากการสะสมของเหลวในร่างกายโดยเฉพาะที่ขาทำให้ขาบวม
- อาการบวมตั้งแต่ปลายนิ้วเท้าจนถึงข้อสะโพก (Lower Extremities)
- มีอาการเมื่อยล้า
3. ภาวะปอดบวมน้ำจากการอยู่ในพื้นที่สูง (High-altitude pulmonary edema symptoms)
- มีภาวะการณ์หายใจสั้นหลังจากมีการออกแรง ซึ่งจะพัฒนาอาการเป็นหายใจถี่ขึ้นขณะนั่งพัก
- อาการไอ
- มีปัญหาในการเดินขึ้นเขา หรือเดินขึ้นเนิน
- มีไข้
- ไอมีเสมหะเป็นฟอง และอาจปนเลือดออกมาด้วย
- หัวใจเต้นผิดปกติ หรือมีอาการใจสั่นอย่างรวดเร็ว
- มีความรู้สึกไม่สบายเจ็บหน้าอก
- มีอาการปวดหัว ซึ่งอาจแสดงเป็นอาการแรกของภาวะน้ำท่วมปอดจากการอยู่ในที่สูง
ควรไปพบแพทย์เมื่อใด ?
อาการบวมน้ำเฉียบพลันเป็นภาวะอันตรายถึงชีวิต ควรได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนหากมีอาการเฉียบพลัน
ดังต่อไปนี้
- มีภาวะการณ์หายใจสั้น โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นทันทีทันใด
- มีปัญหาในการหายใจ หรือรู้สึกหายใจหอบเหนื่อย หายใจลำบาก
- มีเสมหะเป็นสีชมพู เป็นฟองเมื่อมีอาการไอ
- หายใจลำบาก และมีเหงื่อออกมาก
- ผิวมีโทนสีฟ้า หรือสีเทา
- ความดันโลหิตลดลง ทำให้เกิดอาการวิงเวียน เวียนหัว อ่อนเพลีย หรือมีเหงื่อออก
- มีอาการใดๆ ที่เลวร้ายลงอย่างเฉียบพลันเกี่ยวกับอาการน้ำท่วมปอดแบบเรื้อรัง และจากการอยู่ในพื้นที่สูง
ภาวะแทรกซ้อนของอาการน้ำท่วมปอด
หากมีภาวะน้ำท่วมปอดอย่างต่อเนื่องจะทำให้ความดันโลหิตสูงในปอด และในที่สุดหัวใจห้องขวาจะอ่อนลงและค่อยๆ ล้มเหลวซึ่งจะทำให้เกิดอาการเหล่านี้ตามมา
– อาการท้องบวมและอาการบวมตั้งแต่ปลายนิ้วเท้าจนถึงข้อสะโพก
– มีการสะสมของเหลวในเยื่อหุ้มรอบๆ ปอด เรียกว่า ภาวะมีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด หรือ ภาวะมีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด
– มีเลือดคั่งในตับและ ตับมีอาการบวม
การป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดที่เป็นสาเหตุของภาวะน้ำท่วมปอด
– ควบคุมความดันโลหิต
– ตรวจคลอเรสในเลือดอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด
– ไม่สูบบุหรี่
– รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ
– จำกัดปริมาณเกลือที่รับประทานในแต่ละวัน
– ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
– การจัดการกับความเครียด
– รักษาน้ำหนักเพื่อสุขภาพ เช่น การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยผลไม้สด ผักและผลิตภัณฑ์ไขมันต่ำจากนม
ลดการรับประทานเกลือ และเครื่องดื่มแอลกฮอล์