โรคพยาธิไส้เดือน

โรคพยาธิไส้เดือน เป็นพยาธิตัวกลมชนิดหนึ่งมีรูปร่างคล้ายไส้เดือนสีขาวยาวประมาณ 20-40 ซม.อาศัยอยู่ในลำไส้เล็กของคน ไข่พยาธิที่ผสมแล้วจะหลุดออกมากับอุจจาระ อยู่ตาม ดิน ทราย ฝุ่นละออง ผัก (ที่ใส่ปุ๋ยที่ทำจากอุจาระคน) หรือมีแมลงวันเป็นพาหะพาไปติดเปื้อนอาหาร เมื่อคนกินอาหาร น้ำดื่ม หรืออมนิ้วมือ (ที่เปื้อนไข่พยาธิขณะเล่นตามดินทราย) ก็จะกลืนเอาไข่พยาธิลงไปในลำไส้ตัวอ่อนในไข่จะหลุดออกมาเกาะอาศัยตามลำไส้เล็กและไซทะลุลำไส้เข้าไปตามกระแสเลือด เข้าสู่หัวใจและปอด แล้วเคลื่อนตัวขึ้นไปตามหลอดลมจนถึงคอหอย ในที่สุดก็จะถูกกลืนลงไปในหลอดอาหารและลำไส้อีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ตัวอ่อนก็จะเจริญและอาศัยอยู่ในลำไส้

การติดต่อของโรคนี้ จึงเกิดจากการกลืนไข่พยาธิที่เปื้อนติดอาหาร น้ำดื่ม หรือนิ้วมือ

โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย แต่จะพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ และในเด็กมีอาการรุนแรงกว่า เนื่องจากมักจะมีพยาธิในลำไส้เป็นจำนวนมาก โรคนี้พบมากทางภาคใต้ และอาจพบในภาคอื่น ๆ ได้พอประมาณ

อาการ โรคพยาธิไส้เดือน

ถ้ามีพยาธิอยู่ในลำไส้จำนวนน้อย มักจะไม่มีอาการอะไร บางรายอาจถ่ายหรืออาจอาเจียนเป็นตัวไส้เดือน

บางรายอาจมีอาการปวดท้องหรืออาเจียนเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง โดยมักจะมีอาการหลังกินอาหารสัก ครึ่ง ชั่วโมงบางรายอาจแสดงอาการลมพิษเรื้อรัง

ในรายที่มีพยาธิจำนวนมาก เด็กอาจมีอาการผอมแห้งแรงน้อย กินข้าวได้แต่ไม่อ้วนขึ้นหรือกลับผอมลง บางรายอาจมีอาการเบื่ออาหาร บางรายมีลักษณะพุงโรก้นปอด ขาดอาหาร

การวินิจฉัยที่แน่ชัด คือ สังเกตเห็นด้วยพยาธิที่ถ่ายหรืออาจอาเจียนออกมา หรือโดยการตรวจพบไข่พยาธิในอุจาระ

การป้องกัน โรคพยาธิไส้เดือน

โรคนี้สามารถป้องกันได้ ด้วยการกินอาหารที่สุกไม่มีแมลงวันตอม ดื่มน้ำสะอาด ผักสดผลไม้ควรล้างให้สะอาดก่อนกิน มีส้วมใช้ และรักษาสุขนิสัย (เช่นล้างมือก่อนกินอาหาร และหลังถ่ายอุจจาระ ตัดเล็บให้สั้น)

เด็กที่มีอาการปวดท้องหรืออาเจียนบ่อย หรือเป็นลมพิษเรื้อรัง โดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจน ควรนึกถึงโรคนี้ไว้ด้วยเสมอ ถ้าเป็นไปได้ ควรตรวจดูไข่พยาธิในอุจจาระเด็กด้วยกล้องจุลทรรศน์ ถ้าไม่สามารถตรวจอุจจาระได้ ก็อาจลองให้ยาถ่ายพยาธิไปก่อน ถ้าอาการดีขึ้นก็แสดงว่าอาจเป็นโรคนี้

การรักษา โรคพยาธิไส้เดือน

  1. ให้กินยาถ่ายพยาธิ เช่น มีเบนดาโซล หรืออัลเบนดาโซล
  2. ถ้ามีอาการปวดท้องรุนแรง ให้ส่งโรงพยาบาลด่วน

[Total: 2 Average: 4.5]