“แอปเปิ้ล” หนึ่งในผลไม้ที่คนไทยคุ้นเคย นอกจากกินสดๆ แล้วยังสามารถนำมาทำได้หลากหลายเมนูทั้งคาว-หวาน เครื่องดื่ม และยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ได้แก่ ช่วยต้านมะเร็ง ลดความอ้วน ส่งเสริมระบบย่อยอาหารให้ทำงานดียิ่งขึ้น บำรุงหัวใจ เป็นต้น ดีขนาดนี้แล้วช้าอยู่ใยรีบหามาหม่ำสักผลเถอะ!
แอปเปิ้ล นับเป็นผลไม้อีกชนิดที่ผู้คนทุกวัยนิยมรับประทานอย่างแพร่หลาย นอกจากจะนำมาแปรรูปได้หลากหลาย หารับประทานได้ง่าย รสชาติอร่อยแล้ว ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่เชื่อว่าดีต่อร่างกายหลายอย่าง ไม่ว่าจะช่วยดูแลอาการท้องร่วงหรือท้องผูก ลดขนาดก้อนนิ่ว ป้องกันโรคมะเร็ง หรืออุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงร่างกาย อีกทั้งยังปรากฏงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับสรรพคุณของแอปเปิ้ลในการรักษาปัญหาสุขภาพหลายมุมมอง เพื่อพิสูจน์ว่าแอปเปิ้ลมีสรรพคุณตามที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่
คุณประโยชน์เกี่ยวกับแอปเปิ้ลได้รับการกล่าวอ้างหลายประการ ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความเชื่อที่พูดต่อกันมา แต่ยังปรากฏงานวิจัยทางการแพทย์ที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของแอปเปิ้ลอันส่งผลต่อสุขภาพหลายประเด็น โดยแต่ละประเด็นนั้นก็มีผลการทดลองที่แตกต่างกัน ดังนี้
★ 1. ลดน้ำหนัก ★
มีงานวิจัยพบว่า ผู้ที่เริ่มมื้ออาหารด้วยแอปเปิ้ลนั้นได้รับแคลอรี่น้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทานถึง 200 แคลอรี่ ทั้งนี้ก็เพราะแอปเปิ้ลเต็มไปด้วยเส้นใยและน้ำ ทำให้ผู้ที่บริโภคกินแล้วรู้สึกอิ่ม จากการศึกษาหนึ่งพบว่า ผู้หญิงที่มีน้ำหนักมากเมื่อรับประทานแอปเปิ้ลต่อเนื่องกัน 10 สัปดาห์ ผลปรากฏว่า น้ำหนักลดลงเฉลี่ย 1 กิโลกรัม
★ 2. ช่วยย่อยอาหาร ★
การกินอาหารที่เต็มไปด้วยกากใยไฟเบอร์ ไก้แก่ แอปเปิ้ล นั้นช่วยเสริมระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ตามรายงานของ Harvard Health Publishing เผยว่า เส้นใยที่ทั้งละลายน้ำได้ (ช่วยให้คุณรู้สึกอิ่ม) และเส้นใยที่ละลายน้ำไม่ได้ (ช่วยย่อย บรรเทาอาการท้องผูก) ดีต่อร่างกายทั้ง 2 อย่าง และแอปเปิ้ลก็มีไฟเบอร์ทั้ง 2 ชนิดนี้
★ 3. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน ★
สารโพลีฟีนอลในแอปเปิ้ลช่วยป้องกันการทำลายเนื้อเยื่อของเบต้าเซลล์ในตับอ่อนของคุณ ซึ่งเบต้าเซลล์มักส่งผลเสียต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีการศึกษาพบว่า การรับประทานแอปเปิ้ลวันละ 1 ผล ต่อวัน สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานถึง 28% (เมื่อเทียบกับผู้ที่ได้ได้รับประทานเลย)
★ 4. ลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตสูง ★
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า แอปเปิ้ลนั้นเต็มไปด้วยเส้นใยที่ละลายน้ำได้ ซึ่งตามที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ ได้ทำการวิจัยและพบว่า เส้นใยที่ละลายน้ำได้สามารถช่วยป้องกันการสะสมของคอเลสเตอรอลในเยื่อบุผนังหลอดเลือด นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดระดับความดันโลหิต The American Journal of Clinical Nutrition ยังกล่าวอีกว่า การกินแอปเปิ้ลวันละ 2 ผล ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ที่ไม่ดีต่อร่างกาย
★ 5. ช่วยต่อสู้กับโรคหอบหืด ★
แอปเปิ้ลที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยปกป้องปอดของคุณจากอาการหอบหืดได้เป็นอย่างดี มีการศึกษาหนึ่งพบว่า คนที่บริโภคแอปเปิ้ลเป็นประจำมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหอบหืดนี้ลดลงกว่า 10%
★ 6. บำรุงสมอง ★
หนึ่งในประโยชน์ของแอปเปิ้ลที่น่าสนใจ มันช่วยบำรุงสมอง เพราะช่วยเพิ่มการผลิตแอซิติลโคลีน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบำรุงเซลล์ประสาทและสมอง ช่วยเพิ่มความจำของคุณให้ยาวนานและลดโอกาสในการเป็นโรคอัลไซเมอร์
★ 7. ดีต่อกระเพาะอาหาร ★
ในแอปเปิ้ลนั้นมีเพคติน เป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติก ที่ช่วยเสริมการทำงานของแบคทีเรียที่ดีในกระเพาะอาหาร นอกจากนั้นแอปเปิ้ลยังประกอบด้วยกรดมาลิก ที่ช่วยเพิ่มการผลิตน้ำลาย ช่วยส่งเสริมคุณภาพของฟันและเหงือกของคุณให้แข็งแรง
★ 8. บำรุงกระดูก ★
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า การบริโภคแอปเปิ้ลสามารถช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรงได้ เนื่องจากมีฟลาโวนอยด์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการถูกทำลายของเซลล์และเนื้อเยื่อร่างกายจากอนุมูลอิสระ ป้องกันกระดูกเสื่อมก่อนวัยอันควร
★ 9. ป้องกันโรคมะเร็ง ★
การศึกษาในวารสาร Pediatrics พบว่า ผู้หญิงที่หมั่นรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูงอย่าง แอปเปิ้ล มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งเต้านมน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทาน แถมนักวิจัยยังพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในแอปเปิ้ลช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ อีกด้วย Public Health Nutrition เผยอีกว่า การกินแอปเปิ้ลเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด อาทิ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งหลอดอาหาร และเร็งเต้านม เป็นต้น
คุณค่าทางโภชนาการของ แอปเปิ้ล 100 กรัม
สารอาหาร | ประโยชน์ |
---|---|
ให้พลังงาน | 52 กิโลแคลอรี่ |
คาร์โบไฮเดรต | 13.81 กรัม |
น้ำตาล | 10.39 กรัม |
เส้นใย | 2.4 กรัม |
ไขมัน | 0.17 กรัม |
โปรตีน | 0.26 กรัม |
น้ำ | 85.56 กรัม |
วิตามินเอ | 3 ไมโครกรัม |
เบต้าแคโรทีน | 27 ไมโครกรัม |
แคลเซียม | 6 มิลลิกรัม |
ธาตุเหล็ก | 0.12 มิลลิกรัม |
แมกนีเซียม | 5 มิลลิกรัม |
แมงกานีส | 0.035 มิลลิกรัม |
วิตามินต่างๆ
- วิตามินเอ 3 ไมโครกรัม
- เบต้าแคโรทีน 27 ไมโครกรัม
- วิตามินบี1 0.017 มิลลิกรัม
- วิตามินบี2 0.026 มิลลิกรัม
- วิตามินบี3 0.091 มิลลิกรัม
- วิตามินบี5 0.061 มิลลิกรัม
- วิตามินบี6 0.041 มิลลิกรัม
- วิตามินบี9 3 ไมโครกรัม
- วิตามินซี 4.6 มิลลิกรัม
- วิตามินอี 0.18 มิลลิกรัม
- วิตามินเค 2.2 ไมโครกรัม