พฤติกรรมที่ทำให้ “คนผอมลงพุง”

นั่งๆ นอนๆ ไม่ออกกำลังกายเครียดเป็นประจำกินขนมถุง / fast food ไม่ขาดปากชอบกินอาหารสำเร็จรูป อาหารทอดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่

ภาวะขาดวิตามินดี: มนุษย์ออฟิศต้องระวังให้ดี

หากคุณมั่นใจว่าเป็นคนหนึ่งที่มีสุขภาพแข็งแรง ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน อยากให้ลองสังเกตดูก่อนว่า คุณเป็นคนที่หลีกเลี่ยงการเจอแสงแดด หรือในหนึ่งวันแทบไม่โดนแสงแดดเลยหรือไม่? เพราะถ้าใช้ อาจเข้าข่าย #ภาวะขาดวิตามินดี เคยมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Bangkok Medical Journal สำรวจจากพนักงานออฟฟิศ 211 แห่งทั่วกรุงเทพฯ พบว่าทุก 1 ใน 3 คนของพนักงานออฟฟิศมีภาวะขาดวิตามินดี ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่นั่งทำงานอยู่แต่ภายในอาคารตั้งแต่เช้าจรดเย็น โอกาสการเจอแสงแดดจึงน้อยมาก ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายเราสามารถสังเคราะห์วิตามินดีเองใต้ชั้นผิวหนัง เมื่อไม่โดนแสงแดดเลย ผลที่ตามมาคือปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่นการดูดซึมแคลเซียมทำได้อย่างไม่เต็มที่นัก นอกจากนี้ยังได้มีงานวิจัย จากทีมนักวิจัย Queen Mary University of London ยืนยันว่า วิตามินดียังช่วยลดความเสี่ยงการเป็นไข้หวัด โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และช่วยให้ร่างกายรับมือกับไวรัสต่างๆได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้น ลองปรับพฤติกรรมออกมารับแสงแดดในแต่ละวันบ้าง เพื่อให้กระบวนการการผลิตวิตามินดีในร่างกายทำงานได้ตามปกติ และอย่าลืมออกกำลังกาย ควบคู่ไปกับการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ด้วยนะคะ ร่างกายจะได้สมบูรณ์ แข็งแรงพร้อมต่อสู้กับเชื้อโรครอบตัว

Phantom Ringing Syndrome: อาการรู้สึกไปเองว่าโทรศัพท์สั่น

“โทรศัพท์ใครสั่น?” เคยเป็นไหมคะ รู้สึกว่าโทรศัพท์สั่นหรือได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังจนต้องหยิบขึ้นมาดู แต่ปรากฏว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย อาการแบบนี้นับว่ากลายเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่สุดแสนจะธรรมดาไปแล้วในยุคปัจจุบันที่ทุกคนมีโทรศัพท์เป็นอวัยวะที่ 33 ซึ่งอาการแบบนี้เราเรียกกันว่า Phantom Ringing Syndrome หรือ อาการหลอนไปเองว่าโทรศัพท์สั่น โดยสาเหตุของอาการ ดร.โรเบิร์ต โรเซนเบอร์เกอร์ จากสถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย ได้เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ The Independent ว่าเป็นกระบวนการเรียนรู้ของร่างกายที่รับรู้ว่าโทรศัพท์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายและเรียนรู้ที่จะไวต่อการตอบสนองของการสั่นเมื่อมีคนโทรเข้ามาหรือมีข้อความเข้า และหากใครมีอาการแบบนี้อย่าเพิ่งกังวลใจไปค่ะ เพราะยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่เป็นแบบคุณ อ้างอิงจากผลการศึกษากับนักศึกษาอเมริกาจำนวนกว่า 290 คน พบว่า 90% มีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น ถ้าหากใครที่รู้สึกว่า อาการ Phantom Ringing Syndrome นั้นเกิดขึ้นบ่อยเกินไป แนะนำสุดสัปดาห์นี้จัดการสะสางงานตัวเองให้เรียบร้อย แล้วหาวันว่าง 1 วันทำการ Smartphone Detox ใช้ชีวิตกับตัวเองในกิจกรรมที่ชื่นชอบ โดยปราศจากโทรศัพท์ดู

อาหารตกพื้น อย่าเผลอกิน

ถ้าเผลอทำของโปรดตกพื้น ด้วยสัญชาตญาณอันว่องไวของเรา คงรีบคว้าขึ้นมาปัดๆ แล้วเข้าปากทันที พร้อมปลอบใจกับตัวเองว่า “ตกพื้นไม่ถึง 5 วิ เชื้อโรคไม่เห็นหรอก” ซึ่งเป็นเหตุผลที่ใช้ปลอบใจกันอย่างแพร่ แน่นอนว่าหลายคนคงต้องมีตั้งข้อสงสัยว่า 5 วินาทีที่ว่าปลอดภัยจริงหรือไม่? ได้มีผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ทดลองวางของกินบนกระเบื้องในระยะเวลาที่แตกต่างกัน ซึ่งคำตอบที่ได้นั้นเป็นที่น่าตกใจ เพราะของกินที่ถูกวางไม่ถึง 5 วินาทีนั้นก็มีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนขึ้นมาได้เช่นกัน ต่อมาในปี 2007 ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคลมสัน ได้เปิดเผยงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งว่า จำนวนเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนในอาหารที่ตกพื้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลาเสมอไป แต่ประเภทของพื้นผิวก็สำคัญ โดยมีข้อสรุปว่า พื้นผิวที่มีการปนเปื้อนของเชื้อโรคมากที่สุดถึง 48-70% คือ พื้นไม้และพื้นกระเบื้อง สำหรับพื้นผิวที่พบการปนเปื้อนน้อยที่สุดคือ พรม ที่พบเพียง 1% แต่อย่างไรก็ตาม การที่ร่างกายได้รับเชื้อโรคแม้จะเป็นเพียงแค่ 0.1% ก็มากพอแล้วที่จะทำให้เราเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นมาได้ เพราะเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียแต่ละชนิดมีระดับความรุนแรงต่างกันออกไป ซึ่งเชื้อบางตัวร้ายแรงถึงขั้นทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง ทางที่ดีอย่าไปเสียดายของกินที่ตกพื้น แม้จะเป็นของโปรดปรานมากแค่ไหนก็ตาม เพราะสุขภาพของเรานั้นต้องยกขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง ที่สำคัญก่อนใช้มือหยิบอาหารเข้าปาก ต้องอย่าลืมล้างมือให้สะอาดด้วย

กระดูกพรุน: เข้าสู่วัยทองต้องระวัง

เมื่ออายุมากขึ้น จนถึงจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับร่างกายอย่าง “วัยทอง” ความผิดปกติที่เห็นได้ชัดเจน คืออาการร้อนวูบวาบ นอนไม่หลับ ช่องคลอดแห้ง ปัสสาวะอักเสบ ความทรงจำแย่ลง และยังมีอีกหนึ่งภัยเงียบที่คุณผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนไม่สามารถสังเกตเห็นได้ อย่าง “โรคกระดูกพรุน” โดยปกติแล้ว มวลกระดูกสะสมจะอยู่คงที่สูงสุดจนถึงอายุ 40 ปี หลังจากนั้นก็จะมีการลดลงเฉลี่ยปีละ 0.5-1% ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การกินอาหาร การออกกำลังกาย หรือการใช้ยาบางชนิด แต่สำหรับผู้หญิงที่เข้าสู่ภาวะหมดระดูในช่วงวัย 48-52 ปี ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีหน้าที่ในการส่งเสริมการสร้างมวลกระดูกจะเริ่มขาด ทำให้มวลกระดูกลดลงอย่างรวดเร็วถึง 3-5% ทำให้กระดูกเปราะบาง และกว่าจะรู้ตัวอีกทีว่ากระดูกพรุนก็จนกว่าจะมีการแตกหรือหักเกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อรู้ตัวว่าเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยทอง การเข้ารับการตรวจฮอร์โมน และตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูกจึงสำคัญ เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองก่อนเกิดการแตกหักของกระดูก และรับคำแนะนำจากแพทย์ในการใช้ฮอร์โมนทดแทนอย่างถูกต้องและปลอดภัย

นิ่วทอนซิล: สัญญาณเตือน เจ็บคอ มีกลิ่นปาก

ปัญหา #กลิ่นปาก ไม่ใช่เรื่องตลก เพราะนอกจากจะทำให้เสียบุคลิกภาพ ยังอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพอย่าง #นิ่วทอนซิล ที่เกิดจากการสะสมของแบคทีเรีย เซลล์เนื้อที่ตายแล้วหรือเศษอาหารรวมตัวกันเป็นก้อน ลักษณะสีขาวเหลืองขุ่นๆ ขนาดเท่าเม็ดข้าวที่เข้าไปติดอยู่ตามซอกบริเวณท่อทอนซิล ส่งผลให้มีกลิ่นปาก นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดอาการระคายเคือง เจ็บคอ กลืนอาหารลำบาก หรือทอนซิลบวมได้ วิธีการแก้ไขง่ายๆในเบื้องต้น ให้คุณลองบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ เพื่อให้ก้อนนิ่วค่อยๆหลุดออกมา พร้อมทั้งช่วยลดอาการระคายเคืองได้ หรือจะใช้สำลีเขี่ยก้อนนิ่วออก ซึ่งวิธีนี้อาจยากลำบากไปซักนิด เนื่องจากก้อนนิ่วมีขนาดเล็ก ทั้งยังต้องคำนึงถึงความสะอาดของสำลีอีกด้วย หรือหากใครที่ก้อนนิ่วอยู่ลึกลงไปจนทำให้ยากต่อการกำจัด วิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้กลิ่นปากของคุณหากไปได้

อหิวาตกโรค: ในประวัติศาสตร์ลาว

โรคระบาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เกิดขึ้นไม่น้อยกว่าไทย ในประวัติศาสตร์การระบาดของอหิวาตกโรค เกิดการระบาดหลายครั้งในภูมิภาค โดยเฉพาะในปี 2504 นับจากอินโดนีเซียและแพร่กระจายไปทั่วเอเชียเข้าไปยังลาวในปี 2512 อย่างไรก็ตาม มีรายงานผู้ป่วยอหิวาตกโรคครั้งแรกในลาวเมื่อปี 2496 ย้อนกลับไปช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง อหิวาตกโรคเริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศกำลังพัฒนา และได้รับความช่วยเหลือจากองค์การระหว่างประเทศในการมุ่งขจัดอหิวาตกโรคให้พ้นจากประเทศแถบอาเซียน ในช่วงปลายทศวรรษ 2533 จากสมมุติฐานด้านการพัฒนาประเทศส่งผลต่อการลดลงของโรคระบาดนำไปสู่ข้อเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปทางเศรษฐกิจรวมถึงการออกใบอนุญาตธุรกิจที่รวดเร็วนำไปสู่การเพิ่มจำนวนของภาคเอกชน ผู้ประกอบการ การเกษตรเพื่อยังชีพก่อให้เกิดการจ้างงานที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่ดัชนีการพัฒนามนุษย์ของสหประชาชาติ (HDI)ในลาวจัดอยู่ลำดับที่ 130 จากทั้งหมด177 อหิวาตกโรคระบาดใหญ่ครั้งล่าสุดในลาว จากปี 2536 ถึง 2540 ลาวมีรายงานผู้ป่วยอหิวาตกโรคในแต่ละปี และตั้งแต่ปี 2542 ลาวรายงานผู้ป่วยอหิวาตกโรคเป็นจำนวนมาก นับเป็นการระบาดครั้งใหญ่ครั้งล่าสุด ทำให้มีผู้ป่วย 10,120 รายและเสียชีวิต 453 ราย (อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย 4.4%) และในปี 2543 มีผู้ป่วย 12,440 ราย และเสียชีวิต 520 (4.2%) นับจากนั้นตั้งแต่ปี 2544 อุบัติการณ์ของอหิวาตกโรคในลาวค่อยๆลดลงอย่างมากเช่นเดียวกับอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย มาตรการช่วยเหลือจากองค์การอนามัยโลก ภายหลังจากการระบาดของอหิวาตกโรคครั้งใหญ่ในลาวเมื่อปี 2542 การต่อสู้กับอหิวาตกโรคกลายเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นContinue reading "อหิวาตกโรค: ในประวัติศาสตร์ลาว"

COVID-19: เปิดตัว“CareChek” โมบายแพลตฟอร์มป้องกันโรค

บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)  ร่วมกับบริษัท K2VC และบริษัท IfYouCan พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านโมบายแอพพลิเคชั่น เปิดตัวโมบายแพลตฟอร์ม “CareChek” นวัตกรรมที่จะช่วยสถานที่ทำงานบริหารความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเชิงรุก สามารถวิเคราะห์ผลอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ให้องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรใช้ฟรี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป CareChek เป็นโมบายแพลตฟอร์มที่ใช้ประเมินความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นรายบุคคล ช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงในการนำโรคติดต่อเข้ามาในสถานที่ทำงาน นวัตกรรมนี้ใช้การวิเคราะห์เชิงทำนาย (predictive analytics) เพื่อคัดกรองพนักงานตามความเสี่ยงของการสัมผัสกับโรคก่อนที่พวกเขาจะติดเชื้อ โดยระบบจะวิเคราะห์และคำนวณระดับความเสี่ยงผ่านการผสมผสานของข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เช่น การรายงานอาการของพนักงาน ระบบพิกัด (geo-location) ข้อมูลวิจัยทางการแพทย์ และ ข้อมูลประชากรศาสตร์ เพื่อช่วยจำแนกพนักงานที่อาจมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ ซึ่งแนวคิดนี้มีความแตกต่างจากวิธีติดตามการระบาดทั่ว ๆ ไป ที่มีการเจาะจงการติดเชื้อ และต้องใช้กำลังคนจำนวนมากในการใช้งานให้เกิดผลตามเป้าหมาย นายวสันต์ จาติกวณิช กรรมการบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท ล็อกซเล่ย์  ได้เริ่มจัดตั้งคณะทำงานติดตามและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โดยได้กำหนดมาตรการต่างๆ และได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากทั้งผู้บริหารและพนักงาน ทั้งนี้ได้ร่วมมือกับบริษัทย่อยคือ บริษัท เค 2 เวนเจอร์ แคปปิตอล (K2VC) พัฒนาโมบายแพลตฟอร์มขึ้นมาช่วยให้บริษัทสามารถบริหารจัดการ และประเมินความเสี่ยงของพนักงานในการติดเชื้อโควิด-19 ให้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น “เราได้นำระบบนี้มาใช้งานจริงกับพนักงานในกลุ่มบริษัทล็อกซเล่ย์ เป็นเวลากว่า 3 เดือน ขณะนี้พร้อมให้บริการแก่องค์กรต่าง ๆ ที่สนใจแล้วContinue reading "COVID-19: เปิดตัว“CareChek” โมบายแพลตฟอร์มป้องกันโรค"

มะเร็งเต้านม: ข่าวปลอม ..ผักกระสังรักษา

เมื่อเร็วๆ นี้มีผู้ส่งข้อมูลให้ cofact.org  ตรวจสอบ ว่าผักกระสังดีจริงหรือไม่ โดยโคแฟคชี้แจงข้อมูลว่าผักกระสังเป็นสมุนไพรที่มีประวัติการใช้เป็นยามายาวนาน หมอยาพื้นบ้านมักจะใช้ผักกระสังตำพอกฝี หรือคั้นเอาน้ำทาแผลฝีที่มีหนอง สาวๆ สมัยโบราณใช้น้ำต้มผักกระสังล้างหน้า ทำให้ผิวหน้าสดใส และยังนำมาสระผมทำให้ผมนุ่ม ป้องกันผมร่วง จากการศึกษาสมัยใหม่พบว่า ผักกระสังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรียหลายชนิด ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งจะช่วยกำจัดเนื้อตายทำให้ฝีแตกได้ง่าย และสิวยุบเร็วขึ้น แต่ผู้ที่แพ้พืชที่มีกลิ่นฉุนประเภท Mustard (พืชที่เป็นเครื่องเทศทั้งหลาย) ไม่ควรรับประทาน นั่นเป็นสรรพคุณที่พอเชื่อถือได้จากหลักฐานทางวิชาการ ซึ่งทางโคแฟคเองไม่ยืนยันว่าผักกระสังรักษามะเร็งเต้านมได้ ดังนั้น การแอบอ้างสรรพคุณของผักกระสังว่าช่วยรักษามะเร็งเต้านม ด้วยการใช้ผักกระสัง นำมาตำให้ละเอียด แล้วนำไปแปะ หรือทาที่ใต้ราวนม จะช่วย รักษามะเร็งเต้านมได้นั้นจึงเป็น้อมูลเท็จ ข้อมูลเรื่องผักกระสังเคยมีการเผยแพร่กันมาก่อนแล้ว เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2562 มีเว็บไซต์หนึ่งระบุประโยชน์และคุณค่าของผักกระสังแบบเกินจริงไว้ว่า ผักกระสัง ที่ขึ้นอยู่ตามข้างทางบางท่านอาจคิดว่าเป็นแค่วัชพืช ไม่มีประโยชน์หรือคุณค่าอะไร แต่รู้หรือไม่ ว่าผักกระสังนั้นมีสรรพคุณในการรักษาโรคได้หลากหลาย สามารถรักษาโรคอะไรได้บ้าง รักษา “โรคลักปิดลักเปิด” ในตำรายาไทยระบุไว้ว่าใบของผักกะสังใช้ในการรักษาโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งพอจะอธิบายได้ว่า ในผักกะสังมีวิตามินซีและสารอาหารสูง ซึ่งการรักษานั้นใช้ทั้งการกินและการบดต้นแปะบริเวณที่เลือดออกตามไรฟัน รักษา “เริม ฝี มะเร็งเต้านม” หมอยาพื้นบ้านของไทยใช้ผักกะสังเป็นยาไม่มากนักส่วนใหญ่ใช้พอกฝีและสิวโดยใช้ต้นสดตำพอกฝี หรือใช้น้ำคั้นทาสิว ในต่างประเทศ เช่นContinue reading "มะเร็งเต้านม: ข่าวปลอม ..ผักกระสังรักษา"

เมื่อใช้บริการสาธารณะควรดูแลตัวเองอย่างไร

- สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า - เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร - งดพูดคุย เว้นแต่จำเป็น - พกเจลแอลกอฮอล์ติดตัว - หลีกเลี่ยงการใช้ลิฟต์โดยสารขึ้นลง - หากไอ จาม มีไข้แนะนำให้งดการเดินทาง ควรรีบไปพบแพทย์ #COVID19 #BangkokHospital

COVID-19: กินซีฟู้ด ให้ปลอด

- ใส่ถุงมือทุกครั้งที่ต้องจับอาหารทะเลแช่แข็ง - กินอาหารทะเลปรุงสุกด้วยความร้อน 100 องศา - หากจำเป็นต้องจับอาหารทะเลมือเปล่า ต้องล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้ง ก่อนสัมผัสใบหน้า - เลี่ยงอาหารทะเลดิบ #COVID19

รางวัล GLOBALHEALTH ASIA-PACIFIC Specialist Clinic and Medical Centre Awards (2020)

รางวัล GlobalHealth Asia-Pacific Specialist Clinic and Medical Center Awards (2020) จะเป็นงานครั้งที่ 1 ของงาน ซึ่งจะนำงานกาล่าดินเนอร์มาที่ โรงแรม แบงค็อก แมริออท สุขุมวิท ในปีนี้ การประชุมสุดยอดและรางวัลระดับพรีเมียร์จะให้เกียรติ ยกย่อง และให้รางวัลแก่ศูนย์การแพทย์และคลินิกที่สมควรได้รับซึ่งทำงานอย่างเสียสละเพื่อรักษาประเทศให้แข็งแรง เราจะพิจารณาคะแนนโหวตที่ได้รับจากผู้บริโภคและพิจารณาโดยสมาชิกคณะกรรมการตัดสินของเรา สมาชิกที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศและดำรงตำแหน่งผู้นำทั่วเอเชียแปซิฟิก ด้วยการกลับมาเดินทางอีกครั้งและการรวมตัวในระดับภูมิภาคครั้งแรกในรอบ 1 ปี รางวัลจะจัดขึ้นในสุดสัปดาห์เดียวกันและวันหลังจาก GlobalHealth Asia-Pacific Healthcare and Hospital Awards 2020 เราจะจัดการประชุมเครือข่ายอาหารเช้าสำหรับทั้งสอง ทุกเช้าและค่ำคืนแห่งการพบปะสังสรรค์ งานประกาศรางวัล GlobalHealth Asia-Pacific Awards ดึงดูดผู้นำทางความคิด ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรม นักลงทุน และบุคคลที่มีชื่อเสียงจากหลากหลายสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับหรือภายในการดูแลสุขภาพ อุตสาหกรรม ผู้ให้บริการโรงพยาบาลและการดูแลสุขภาพสิ่งอำนวยความสะดวกการดูแลผู้สูงอายุผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี ICT ด้านสุขภาพบริษัทอุปกรณ์การแพทย์เภสัชกรรมธุรกิจ บริการทางการเงิน และการตลาด ความเชี่ยวชาญ การดำเนินงานของโรงพยาบาลและคลินิกการบริหารโรงพยาบาลนวัตกรรมทางคลินิกeHealthข้อมูลทางการแพทย์/สุขภาพการประยุกต์ใช้ทางคลินิกและเทคโนโลยีการพยาบาลไอทีดูแลสุขภาพการลงทุนด้านการดูแลสุขภาพการพัฒนาองค์กร บทบาท แพทย์ผู้อำนวยการคลินิกกรรมการโรงพยาบาลหัวหน้าและผู้จัดการโรงพยาบาลหน่วยงานผู้เชี่ยวชาญนักยุทธศาสตร์นักลงทุนสถาบันผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ผู้ให้บริการโซลูชัน MedTechContinue reading "รางวัล GLOBALHEALTH ASIA-PACIFIC Specialist Clinic and Medical Centre Awards (2020)"

โรคเบาหวาน: 4 ชนิด..ชนิดไหนมีหวังหายขาดได้

โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เบาหวานชนิดนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ พบในเด็กหรือผู้ที่มีอายุน้อยส่วนใหญ่น้อยกว่า 30 ปี มัก ผ อ ม ตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้ ต้องรักษาด้วยการฉีดอินซูลิน ถ้าขาดอินซูลินจะเกิดภาวะหมดสติจากน้ำตาลสูงและกรดคีโตนคั่งในเลือด ในประเทศไทยพบผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ร้อยละ 3.4 เบาหวานชนิดนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่คุมและป้องกันไม่ให้อาการแย่ไปกว่าเดิม หรือ ป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 หากรู้ตัวว่าเป็น และ ดูแลรักษาตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถรักษาให้หายขาดได้ ชนิดนี้ตับอ่อนยังพอผลิตอินซูลินได้บ้าง แต่มี ภาวะดื้อต่ออินซูลิน พบถึงร้อยละ 95-97 ของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและพบในทุกเพศทุกวัย ผู้เป็นส่วนใหญ่ จะออกไปทางเจ้าเนื้อ  ในระยะแรกอาจรักษาได้ด้วยการควบคุมอาหารหรือยาเม็ดลดลดระดับน้ำตาล แต่เมื่อเป็นเวลานานๆ ในบางรายมีเบต้าเซลล์เสื่อม ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดีอาจจำต้องฉีดอินซูลิน ปัจจุบันนี้พบในเด็กมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กอ้ ว น สมบูรณ์ เนื่องจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป มีการรับประทานอาหารที่มีไขมันมาก ขาดการออกกำลังกาย มักจะนั่งหน้าจอโทรทัศน์หรือจอคอมพิวเตอร์แทนการวิ่งเล่น หรือการเล่นกีฬา ชนิดที่ 3 เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ หากไม่รีบลดและควบคุม รักษา อาจเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ ส่งผลต่อเด็กในครรภ์ได้ เContinue reading "โรคเบาหวาน: 4 ชนิด..ชนิดไหนมีหวังหายขาดได้"

โรคไต: ปัสสาวะเป็นฟอง เกิดจากโรคไตจริงไหม!?

แต่ไหนแต่ไรมา ทุกคนคงเคยได้ยินว่าถ้าปัสสาวะออกมาเป็นฟอง ให้สงสัยว่าจะเป็นโรคไต ซึ่งถ้าพูดถึงคำว่าโรคไตทุกคนก็คงจะกังวลไม่น้อยกับโรคนี้ใช่ไหมคะ ไหนจะไตวายเอย จะต้องฟอกไตเอย แต่ละอย่างช่างน่ากลัวและน่ากังวลเสียจริง ก็เลยทำให้หลายๆคนกังวลกับเรื่องปัสสาวะเป็นฟองกันมากเลยทีเดียว โดยส่วนตัวหมอเองก็เจอคนไข้มาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องปัสสาวะเป็นฟองไม่น้อยเลย เรียกว่ามีอยู่เรื่อยๆเลยดีกว่า งั้นวันนี้เรามาคุยเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ อย่างแรกเลย ขอบอกให้สบายใจก่อนว่า อาการปัสสาวะเป็นฟองสามารถเกิดในคนปกติได้ค่ะ โดยมักจะเจอเวลาที่เราปวดปัสสาวะมากๆ ทำให้ถ่ายปัสสาวะด้วยอัตราไหลที่สูง เมื่อตกกระทบน้ำในส้วมก็เลยเกิดเป็นฟองขึ้นมานั่นเองค่ะ ภาวะนี้สามารถสังเกตได้ง่ายๆก็คือ ฟองจะเป็นฟองใหญ่ๆ มีชั้นเดียว และสักพักก็จะค่อยๆละลายหายไปหรืออีกกรณีหนึ่งก็คือในน้ำในส้วมนั้นมีสารทำความสะอาด เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำอยู่ก็ทำให้เกิดฟองได้เช่นกันค่ะ แต่ถ้าเกิดว่าเป็นฟองเยอะๆ หลายๆชั้น และเปลี่ยนกี่ห้องน้ำก็ยังฟองมากเหมือนเดิม อันนี้คงต้องเริ่มสงสัยแล้วว่า’ผิดปกติ’ ซึ่งอันที่จริงส่วนใหญ่ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร......ส่วนคนที่เป็นโรคไตพบว่าปัสสาวะเป็นฟองเพียงแค่ 1/3 เท่านั้น.... สำหรับสาเหตุอื่นๆ ได้แก่ ปัสสาวะเป็นเลือด มีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ หรือแม้แต่การรับประทานอาหารบางอย่าง หรือ กินยาถ่ายบางตัวก็สามารถทำให้ปัสสาวะเป็นฟองได้ ดังนั้นอาการปัสสาวะเป็นฟองจริงๆแล้วจึงยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ชัดเจนว่าเกิดจากโรคไตจริงไหม ต้องเป็นฟองเยอะแค่ไหนถึงผิดปกติ เพราะผู้ที่มีปัสสาวะเป็นฟอง เมื่อเข้ารับการตรวจแล้วก็จะพบความผิดปกติเพียงแค่ 30% เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามหากมีอาการปัสสาวะเป็นฟองมากผิดปกติ เป็นทุกครั้ง หมอก็แนะนำให้ไปรับการตรวจนะคะ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติเคยเป็นโรคไตมาก่อน หรือมีประวัติโรคไตในครอบครัว เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณของโรคไตของคุณได้ค่ะ และเพื่อเป็นการดูแลสุขภาพไตที่ดี หมอแนะนำให้สังเกตอาการอื่นๆควบคู่ไปด้วยค่ะ เช่น อาการตัวบวม ตาบวม ภาวะความดันโลหิตสูงContinue reading "โรคไต: ปัสสาวะเป็นฟอง เกิดจากโรคไตจริงไหม!?"

โรคหัวใจ: 4 เมนูอาหารและเครื่องดื่มบำรุงหัวใจ

 เมื่อผู้ดูแลทราบถึงอาการของโรคหัวใจแล้ว การดูแลผู้ป่วยจึงต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เราต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งอาหารการกินและกิจกรรมต่างๆที่ผู้ป่วยทำ เราต้องให้ความใส่ใจและเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดให้กับผู้ป่วย บทความนี้จึงอยากนำเสนอเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคหัวใจ ซึ่งสามารถทำตามกันได้ง่ายๆ ดังนี้ ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ส่วนผสม อกไก่ 300 กรัมเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ ½ ถ้วยต้นหอม 2 ต้นพริกหวาน ½ ลูกซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย 1¼  ช้อนโต๊ะกระเทียมไทย 1 หัวน้ำมันพืช วิธีทำ นำอกไก่มาล้างและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปพอน้ำมันเริ่มร้อน ก็ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไปคั่ว ให้มีสีเหลืองสวย และนำขึ้นพักไว้ล้างและหั่นต้นหอมให้มีความยาวประมาณ 1 นิ้ว และหั่นพริกหวานเป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนก็ใส่กระเทียมลงไปเจียวให้มีสีเหลืองและกลิ่นหอมเมื่อกระเทียมเริ่มมีสีเหลืองก็ใส่อกไก่ลงไปผัด ผัดไปเรื่อย ๆ จนสุกเมื่อไก่เริ่มสุกใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่เตรียมไว้ และใส่ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม และน้ำตาลทรายลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันผัดไปเรื่อย ๆ จนเครื่องปรุงเริ่มแห้งก็ใส่ต้นหอม และพริกหวานลงไปผัดให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ สลัดแซลมอนย่าง ส่วนผสม      1. แซลมอนContinue reading "โรคหัวใจ: 4 เมนูอาหารและเครื่องดื่มบำรุงหัวใจ"