โรคตา ( Eye Disease ) คือ ความผิดปรกติของดวงตา อันส่งผลต่อสมรรถภาพทางตามีปัญหา ซึ่งอวัยวะเกี่ยวกับดวงตา ประกอบด้วย เยื่อบุตา ( conjunctiva ) กระจกตา ( cornea ) ม่านตา ( iris ) รูม่านตา ( pupil ) ตาขาว ( sclera ) เลนส์แก้วตา ( lens ) จอประสาทตา ( retina ) ขั้วประสาทตา ( optic disc ) เส้นประสาทตา ( optic nerve ) วุ้นตา ( vitreous body ) และ กล้ามเนื้อตา ( extraocular muscles ) ส่วนประกอบของดวงตาเหล่านี้มีความสำคัญต่อการดำรงค์ชีวิตสูงมาก
ดวงตา เป็นอวัยวะที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์มาก โรคที่เกี่ยวกับดวงตาและสายตา ถึงจะไม่ทำให้เสียชีวิตแต่ไม่มีใครต้องการมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา ซึ่งโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของตาบางครั้งไม่แสดงอาการในระยะแรก และ แสดงอาการรุนแรงในระยะที่รักษายากไปแล้ว ดังนั้น การใส่ใจดูแลสุขภาพดวงตาอย่างสม่ำเสมอจึงช่วยลดปัจจัยการเกิดโรคที่ดวงตาได้
สาเหตุ โรคตา
- อายุ พันธุกรรม และโรคประจำตัว อาจเป็น 3 สาเหตุหลักของการเกิดโรคตาที่ยากจะหลีกเลี่ยง แต่ทราบหรือไม่ว่า นอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว สาเหตุของโรคตามักเกิดจากการใช้ชีวิตในแต่ละวัน โดยเฉพาะในวัยทำงานที่ต้องเผชิญกับปัจจัยต่าง ๆ ที่มาทำร้ายดวงตา รวมถึงวิถีชีวิตที่ต้องพึ่งพาการสื่อสารบนโลกออนไลน์ทำให้ต้องใช้สายตามากเป็นพิเศษ ซึ่งปัจจัยหลักที่มาทำร้ายดวงตาก็คือ แสงสีฟ้า
- แสงสีฟ้า (Blue light) เป็นหนึ่งในสามของแสงขาวจากแสง UV ที่สามารถมองเห็นได้และมีพลังงานสูง พบอยู่ในแสงที่มาจากหน้าจอสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ถือเป็นช่วงแสงที่มีความสว่างมากที่สุด จึงสามารถทะลุมาทำลายเซลล์จอประสาทตา ส่งผลกระทบต่อดวงตาได้ โดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องจ้องจอเป็นเวลานานหรือใช้อุปกรณ์ที่มีแสงสีฟ้าท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ปิดไฟเล่นสมาร์ทโฟนตอนกลางคืน ยิ่งทำให้แสงสีฟ้าทำร้ายดวงตาได้มากขึ้น ก่อให้เกิดภาวะตาล้า (Digital Eye Strain) และนำไปสู่ ‘โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม’ ได้ด้วย และหากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานานคลื่นแสงสีฟ้าจะก่อให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเซลล์ในดวงตาจนเสียหาย ทำให้เซลล์บริเวณค่อย ๆ เสื่อมลงและไม่สามารถมองเห็นได้เป็นปกติ
นอกจากแสงสีฟ้าที่เป็นสาเหตุหลักของการทำร้ายดวงตา ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรระวัง ดังนี้
รังสียูวี คือรังสีที่มาจากแสงแดด หากกระทบต่อดวงตามากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อผิวหนังรอบดวงตา เยื่อบุตา อาจเกิดการอักเสบ ปวดและระคายเคืองตา ในระยะยาวจะทำให้เป็นต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
บุหรี่ สารพิษที่อยู่ในควันบุหรี่จะส่งผลกระทบต่อการมองเห็น มีผลวิจัยทางการแพทย์ระบุว่าผู้ที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่ออาการตาอักเสบมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า และยังเสี่ยงตาบอดเนื่องจากหลอดเลือดตีบทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ไม่เพียงพอ
เครื่องดื่มดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลต่อให้เกิดอาการตาแห้ง และหากดื่มติดต่อกันเป็นเวลานานสารพิษจะสะสมในร่างกายและไปทำลายเส้นประสาทตาจนสูญเสียการมองเห็นในที่สุด
โรคที่เกี่ยวข้องกับ โรคตา
- ตาแห้ง
- ตามัว
- ตาไวต่อแสง
- เบาหวานขึ้นตา
- จอประสาทตาเสื่อม
- โรคเส้นประสาทตาอักเสบ
- ริดสีดวงตา
- หนังตาอักเสบ
- ตาอักเสบจากเชื้อหนองใน
- ปวดตา
- มะเร็งลูกตา
- สิ่งแปลกปลอมเข้าตา
- ตาได้รับบาดเจ็บรุนแรง
- น้ำตาไหล
- กระจกตาถลอก
- สายตาขี้เกียจ
- ต้อหิน
- ตาบอด
- โรคกระจกตาย้วย
- เยื่อตาขาวอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
- กระจกตาอักเสบ – แผลที่กระจกตา
- โรคตาแดงระบาด
- ต้อกระจก
- ตาเข
- เยื่อตาขาวอักเสบจากการแพ้
- จอตาลอก
- ต้อเนื้อ
- กุ้งยิง
- เลือดออกใต้ตาขาว
- สายตาผู้สูงอายุ
- ท่อน้ำตาอุดตัน
- ม่านตาอักเสบ
- สายตาผิดปกติ
- จุดภาพชัดเสื่อมตามวัย